แหลมสิงห์ ไวท์เฮาส์ รีสอร์ท (LAEMSING WHITEHOUSE RESORT)

แหลมสิงห์ ไวท์เฮาส์ รีสอร์ท (LAEMSING WHITEHOUSE RESORT)

บ้านหลังสีขาวตั้งอยู่ใกล้ทะล มีเพียงถนนเส้นน้อยเท่านั้นที่กั้นรีสอร์ตแห่งนี้กับทะเล ที่นี่คือแหลมสิงห์ ไวท์เฮาส์ รีสอร์ต ที่พักสุดชิลริมทะเลจันทบุรี ที่พักของที่นี่เป็นบ้านหลังสีขาวที่ตกแต่งได้น่ารักแตกต่างกันไป มีทั้งแบบ PRESIDENT HOUSE บ้านพักสีขาวสไตล์เมดิเตอเรเนียน ติดริมทะเล เหมาะสำหรับคู่รักฮันนีมูม หรือจะเป็นครอบครัวหรรษา พักได้ถึง 4 ท่าน, SWEET VINTAGE เป็นที่พักที่ออกแบบดูดีมีสไตล์สำหรับ ความอบอุ่น และ ความรัก ภายในห้อง โทน สีเหลือง, BLUE VINTAGE ห้องโทนสีฟ้า ห้องพักตกแต่งด้วยสไตล์ วินเทจ ตัวอาคาร สีขาว หลังคามุงหญ้าคา และ LITTLE MORROC ที่พักออกแบบผสมผสานกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมของโมร็อคโค ภายนอกอาคารเป็นสีขาว มีดาดฟ้า สำหรับชมวิวทะเล พักได้ถึง 6 คน ใครที่อยากมาสัมผัสความชิลแบบนี้มาที่นี่ได้เลย

ตั้งอยู่เลียบหาดแหลมสิงห์ ให้บริการบังกะโลอันสะดวกสบายที่มีการตกแต่งภายในอันทันสมัยและความสะดวกสบายของสถานที่จอดรถในพื้นที่ของสถานที่ตากอากาศและอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WI-FI) บริการ ฟรี ในทุกพื้นที่ของสถานที่ตากอากาศ แหลมสิงห์ ไวท์เฮาส์ รีสอร์ท ตั้งอยู่ห่างจากน้ำตกพลิ้วและโอเอซิส ซี เวิลด์ ด้วยการเดินทางโดยรถยนต์ 10 นาที สถานที่ตากอากาศตั้งอยู่ห่างจากหาดเจ้าหลาว 20 นาที ด้วยการเดินทางโดยรถยนต์ ท่าเรือข้ามฟากเกาะช้างอยู่ห่างจากสถานที่ตากอากาศแห่งนี้ 1 ชั่​​วโมง 30 นาที ด้วยการโดยสารเรือข้ามฟาก บังกะโลทุกหลังตั้งอยู่ท่ามกลางสวนหย่อม ประกอบด้วยเครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์จอแบนและตู้เย็น ห้องน้ำในตัวมีฝักบัว สำหรับอาหารมื้อต่าง ๆ ท่านสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารท้องถิ่นรายการต่าง ๆ ได้จากร้านอาหารหลายแห่งซึ่งอยู่โดยรอบสถานที่ตากอากาศแห่งนี้ 

ที่อยู่: 84/9 MOO2 PAKNAMLAEMSING, LAMSING, CHANTABURI อำเภอ แหลมสิงห์ 22130
โทรศัพท์:081 683 0778

ชื่นชอบการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ท่ามกลางสายน้ำ ต้องที่เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท

ชื่นชอบการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ท่ามกลางสายน้ำ ต้องที่เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท

เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท สถานที่พักผ่อนซึ่งรอการมาเยือนของนักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ท่ามกลางสายน้ำ แสงแดด ขุนเขา อีกทั้งการผจญภัย ที่คุณจะได้ค้นพบความสนุกสุดเหวี่ยง!กับเครื่องเล่น WATER PARK อาทิ ภูเขาจำลองสูง 5เมตร, สไลเดอร์น้ำ, จักรยานน้ำ, ขับเจ๊ตสกี และกิจกรรมทางน้ำอีกมากมาย รวมทั้งบริการพิเศษ ล่องเรือ SPEED BOAT ชมทิวทัศน์ทะเลสาปรอบเกาะ เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์บนแนวทิวเขาเขียวขจีที่โอบล้อมอย่างงดงามสุดอัศจรรย์ และสัมผัสกับการพักผ่อนบนแพที่พัก ในสไตล์มัลดีฟแห่งแรกของเมืองไทย มีให้เลือกสรรได้หลากหลายขนาด ทั้งแบบส่วนตัว และแบบครอบครัว เหมาะกับจำนวนลูกค้าที่เข้าพัก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน... อีกทั้งในระหว่างการเดินทางคุณยังสามารถเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ใกล้เคียงในเขตจังหวัดกาญจนบุรี อาทิ น้ำตกเอราวัณ,น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น, สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์สมเด็จพระนเรศวรฯ ริมทางหลวงสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ และที่ เลค เฮฟเว่นฯ คุณจะได้ลิ้มลองรสชาติ อาหารในเมนูแนะนำ ที่ทั้ง สดและอร่อยลิ้นจนยากจะลืมเลือน และยังได้ผ่อนคลายกับคาราโอเกะ ความบันเทิงยามค่ำคืนท่ามกลางสายลมและแสงดาว ให้คุณได้เก็บความประทับใจไว้ในความทรงจำตลอดไป...

ที่ตั้ง :241 หมู่ 5 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี
นักท่องเที่ยวที่สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ คุณอีฟ 084-387-6763, คุณก้อย 084-387-6764, คุณกอล์ฟ 084-387-6796, คุณแป๋ง 084-387-6742

ทำบุญต้อนรับปีใหม่ "พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์"

ทำบุญต้อนรับปีใหม่ "พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์"

“พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์” ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับทางขึ้นน้ำตกสาริกา ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก พื้นที่ 53 ไร่ แวดล้อมด้วยภูเขามีสายน้ำไหลผ่าน

“พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์” สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสครบ 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าด้วยการระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธาทั้งในและต่างประเทศ เมื่อเข้าไปในสถานที่แห่งนี้เราจะได้เห็นพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์ขนาดใหญ่เด่นเป็นสง่าหน้าตัก 9 เมตร สูง 13.5 เมตร เป็นตัวแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริเวณโดยรอบมีการสร้างพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 90 ซม. อีก 1,250 องค์ เป็นตัวแทนพุทธสาวกแสดงถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อครั้งพุทธกาล กล่าวคือ เป็น
วันจาตุรงคสันนิบาต หรือวันประชุมใหญ่อันประกอบด้วยองค์ 4 คือ
1. พระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นพุทธสาวกจำนวน 1,250 องค์ มาชุมนุมพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย
2. พระพุทธสาวกเหล่านี้ล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ เป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงประทานการอุปสมบทด้วยพระองค์เอง
3. พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์
4. วันนั้นเป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะ คือพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ “ในวันดังกล่าวพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงประกาศหลักธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนาเหมือนรัฐธรรมนูญที่ใช้เป็นแม่บทสำคัญสูงสุดของประเทศ หลักธรรมสำคัญของพุทธศาสนา คือ การแสดงโอวาทปาติโมกข์ เป็นประกาศหลักธรรมสำคัญอันเป็นแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อนำไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ประกอบด้วยหลักการ 3 อุดมการณ์ 4 และวิธีการ 6 ที่นี่จึงเหมือนเป็นตำราเรียนประวัติศาสตร์ พระพุทธศาสนาเล่มใหญ่สำหรับผู้สนใจ นักเรียน นักศึกษา ได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่เกิดขึ้นจริงเมื่อครั้งพุทธกาลที่ไม่มีประเทศใดสร้างมาก่อน” พระราชพิพัฒน์โกศล เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม กรุงเทพฯ กล่าว ณ วันนี้ต้นไม้รอบบริเวณดังกล่าวกำลังเติบโตให้ความร่มเงา มีสายน้ำจากน้ำตกสาริกาไหลรินผ่านมาให้ความร่มเย็น มีภูเขายิ่งใหญ่มั่งคงล้อมรอบ จึงได้มีการสร้างศาลาปฏิบัติธรรม 1 หลัง ข้างในจะมีพระพุทธรูปของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน และในอนาคตจะสร้างศาลาปฏิบัติธรรมเพิ่ม เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ
สามารถเดินทางมาสักการะหรือเวียนเทียนที่พุทธอุทยานมาฆบูชาฯ ได้ทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่
โทร.08-1906 6974, 08-8400-9001-8

"อุโมงค์ต้นไม้" ทางรถไฟสายมรณะ (ถ้ำกระแซ จ.กาญจนบุรี)

"อุโมงค์ต้นไม้" ทางรถไฟสายมรณะ  (ถ้ำกระแซ จ.กาญจนบุรี)

อุโมงค์ต้นไม้ อยู่บนเส้นทางของ ทางรถไฟสายมรณะ ช่วงก่อนเข้าสถานีถ้ำกระแซ 500 เมตร อยู่ใกล้ๆสวนไทรโยครีสอร์ท จุดหมายปลายทางคือสถานีน้ำตก 
 ทางรถไฟสายมรณะ สายนี้สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและกรรมกรชาวเอเชีย ที่กองทัพญี่ปุ่น เกณฑ์ มาสร้าง เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า ปัจจุบันเส้นทางนี้ไปสุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานีน้ำตกระยะทางจาก สถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร“หากนับหมอนหนุนรางรถไฟมีเท่าไหร่ จำนวนผู้คน-เชลยศึกที่ถูกเกณฑ์มาสร้าง ทางรถไฟ สายนี้ก็ตายไปเท่านั้น”  นี่คือคำเล่าขานถึงเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ไทย-พม่า ระยะทางกว่า 415 กิโลเมตรนี้ คือ ความหฤโหด ทารุณ และยากลำบาก ของสิ่งที่เชลยศึกได้รับ จนได้รับการขนานนามว่า “เส้นทางรถไฟสายมรณะ”

ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเดินรถบนเส้นทางสาย ธนบุรี-น้ำตกทุกวัน และจัดรถไฟขบวนพิเศษสายกรุงเทพฯ - น้ำตก ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ จุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาก คือช่วงสะพานข้ามแม่น้ำแควและช่วงโค้งมรณะหรือถ้ำกระแซซึ่งเป็นสะพานโค้งเลียบ แม่น้ำแควน้อยยาวประมาณ 400 เมตร ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้สวยงามมาก ที่เส้นทางรถไฟจะลัดเลาะไปตามเชิงผาเลียบไปกับลำน้ำแควน้อย โดยจะ วิ่งเลียบผ่านและจอดที่สถานีถ้ำกระแซเวลา 13.30 น. ซึ่งหากใครขับรถมาชมด้วยตัวเองเองก็มารอที่ถ้ำกระแซและควรมาก่อนช่วงเวลาซักเล็ก น้อย ปัจจุบันทางรถไฟสายนี้สุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานีน้ำตกระยะทางจากสถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย
โทร. 0 2223 7010,0 2223 7020 หรือ 1690

ดูพระอาทิตย์ตกชมทะเลหมอก ที่ดอยเสมอดาว

ดูพระอาทิตย์ตกชมทะเลหมอก ที่ดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 สายนาน้อย-ปางไฮ เป็นจุดชมทิวทัศน์บนยอดหน้าผาสูง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา สำหรับพักผ่อนและดูดาว ดูพระอาทิตย์ตกและยังเป็นจุดชมทะเลหมอกอีกด้วย หากจะเดินขึ้นไปบนผาสิงห์ (เป็นหน้าผาที่มีรูปร่างคล้ายหัวสิงห์) ระยะทาง 2 กิโลเมตร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ ระหว่างทางจะพบต้นจันทน์ผาซึ่งเป็นไม้เด่น และเมื่อท้องฟ้าแจ่มใส จากผาสิงห์สามารถมองเห็น อำเภอนาน้อย อำเภอเวียงสา และแม่น้ำน่านได้

สำหรับผู้ที่สนใจค้างแรมก็มีพื้นที่กางเต็นท์บริการ แต่ต้องเตรียมอาหารไปเอง ทั้งนี้ติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ปณ. 14 ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 โทร. 0 5470 1106, 08 1224 0800 หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760

สัมผัสบรรยากาศสุดชิล ที่บ้านภูหลวง บูติครีสอร์ท ณ วังน้ำเขียว

สัมผัสบรรยากาศสุดชิล ที่บ้านภูหลวง บูติครีสอร์ท ณ วังน้ำเขียว

บ้านภูหลวง บูติครีสอร์ท ณ วังน้ำเขียว ที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาป่าไม้ และเสียงนกนานาพันธุ์ สัมผัสทัศนียภาพอันงดงามแบบ 360องศา ความเย็นสบายตลอดทั้งปี และทะเลหมอกในฤดูฝนและฤดูหนาว ในแหล่งโอโซนบริสุทธิ์ติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก ชมพระอาทิตย์ยามรุ่ง อรุณแห่งวันใหม่และเก็บความทรงจำยามตะวันลับขอบฟ้า สะดวกสบายกับที่พักด้วยอุปกรณ์ตกแต่งครบครันกับการพักผ่อนที่บ้านภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ธรรมชาติอันทรงคุณค่ารอคอยการมาเยือนของ นักท่องเที่ยว และผู้รักสุขภาพทุกท่าน

สำรองห้องพัก คุณวัลลีย์ 086-105-4008 (เฉพาะช่วงเวลา 08:00 – 20.00 น.)
สอบถามเส้นทาง คุณปรีชา 089-062-7276 (เฉพาะช่วงเวลา 08:00 – 20.00 น.)
เบอร์แฟ็กซ์ : 02-336-1487
อีเมล์ : BAANPHULUANG@GMAIL.COM
LINE ID : BAANPHULUANG

ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิตดอยหลวงเชียงดาว

ครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิตดอยหลวงเชียงดาว

ดอยเชียงดาว อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว ยอดสูงสุดของดอยเชียงดาว เรียกว่า ดอยหลวงเชียงดาว (เพี้ยนมาจากคำที่ชาวบ้านในละแวกเปรียบเทียบดอยนี้ว่าสูงเพียงดาว) มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำสูง 2,195 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับเป็นยอดดอยที่สูงอันดับ 3 ของประเทศรองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก จากบนยอดดอยซึ่งเป็นที่ราบแคบ ๆ สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน คือ ทะเลหมอกด้านอำเภอเชียงดาว ดอยสามพี่น้อง เทือกดอยเชียงดาว ตลอดจนถึงยอดดอยอินทนนท์อันไกลลิบ อากาศเย็น ลมแรง และสมบูรณ์ด้วยดอกไม้ป่าภูเขาที่หาชมได้ยากมากมายรวมทั้งนกและผีเสื้อด้วย (ไม่เหมาะที่จะขึ้นไปยืนบนยอดดอยทีละกลุ่มใหญ่ ๆ เพราะจะไปเหยียบย่ำทำลายพรรณไม้บนนั้นได้แม้จะโดยไม่ตั้งใจก็ตาม) โดยการเข้าไปใช้พื้นที่ต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการเดินทาง

การเดินทางสู่ยอดดอยเชียงดาวเริ่มที่ถ้ำเชียงดาว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถติดต่อคนนำทาง ลูกหาบ รวมทั้งรถไปส่งที่จุดเริ่มเดินได้ ซึ่งบนดอยเชียงดาวไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมตัวไปด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนอน อาหาร และน้ำ
​รายละเอียด โทรศัพท์ 0 2561 2947

หนาวนี้ชวนเพื่อนพิชิตยอดเขา "โมโกจู" ที่ จ.กำแพงเพชร

หนาวนี้ชวนเพื่อนพิชิตยอดเขา "โมโกจู" ที่ จ.กำแพงเพชร

  โมโกจู อาจไม่ใช่ชื่อแหล่งท่องเที่ยวคุ้นหูนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่สำหรับนักเดินป่าหรือผู้ที่รักการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ “โมโกจู” คือความใฝ่ฝัน คือจุดมุ่งหมาย คือสถานที่ที่นักนิยมไพรต้องปักหมุดไว้ว่าสักวันหนึ่งต้องเดินทางไปให้ถึง
“ยอดเขาโมโกจู” เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และยังสูงที่สุดในผืนป่าตะวันตก การเดินเท้าขึ้นพิชิตยอดเขาจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทางตลอด จุดเริ่มต้นเดินอยู่ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ แม่ราวา ช่วงแรกทางยังไม่สูงชันในวันแรก จากนั้นจะเริ่มไต่ระดับความสูงขึ้นในวันที่สอง และวันที่สามทางจะสูงชันมาก
จนถึงยอดเขา รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 50 กิโลเมตร ผ่านทั้งทางคดเคี้ยวกลางป่า เดินเลาะห้วย ข้ามลำน้ำผ่านน้ำตก กว่าจะได้ชมทิวทัศน์จากยอดเขา ซึ่งเป็นสุดยอดแห่งการเดินทางในทริปนี้ ด้วยความสูง 1,960 เมตร
จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของป่าคลองลาน ป่าอุ้มผาง ป่าห้วยขาแข้งและด้วยอยู่สูงที่สุดบนยอดเขาโมโกจูนี้จึงสามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก สำหรับทริปนี้เหมาะกับผู้ที่มีสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อม ช่วงเวลาที่เหมาะสมอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ก่อนหน้านั้นระดับน้ำสูงจะข้ามลำน้ำยากและเมื่อเข้าฤดูร้อนอาจพบไฟป่า เนื่องจากเป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณหลายแห่ง สำหรับผู้ที่ไม่ชอบ
เดินเท้าไกลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณอุทยานฯ ให้เที่ยวชม เช่น ดูนก และเดินท่องเที่ยวในเส้นทางศึกษา
การเดินทาง
จากตัวเมืองกำแพงเพชร ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (กำแพงเพชร - นครสวรรค์) ถึงกิโลเมตรที่ 338 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1117 (ไปอำเภอคลองลาน) ถึงกิโลเมตรที่ 65 เลี้ยวขวาใช้เส้นทางคลองลาน – อุ้มผางอีก 16 กิโลเมตร รวมระยะทางจากตัวเมืองกำแพงเพชร 66 กิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทรศัพท์ 0 - 5571 - 9010 - 1

ภูผาน้ำ รีสอร์ท แอนด์ สปา (PHU PHA NAM RESORT & SPA)

ภูผาน้ำ รีสอร์ท แอนด์ สปา (PHU PHA NAM RESORT & SPA) 

ภูผาน้ำ รีสอร์ท สถานที่พักผ่อนแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สูงเหนือระดับน้ำทะเล 620 เมตร ห่างจากกรุงเทพฯ ไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 455 กิโลเมตร รีสอร์ทอยู่ที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย บนเนื้อที่กว่า 1,300 ไร่ สนุกกับกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ฟาร์มกล้วยไม้ ฟาร์มกวาง ฟาร์มนกกระจอกเทศ สวนนก ไร่ส้ม ไร่แก้วมังกร สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย เพรียบพร้อม ด้วยห้องพักที่สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมให้การต้อนรับคุณ
ห้องพักทั้งหมดออกแบบและตกแต่งด้วยไม้สักทอง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา และภายในห้องพัก เพรียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ โทรศัพท์ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น WIFI ไว้คอยบริการเพื่อให้การพักผ่อน ของท่านเต็มไปด้วยความสุขสบายอย่างแท้จริง เรามีบริการ รถรับส่ง สนามบินเลย สนามบินอุดรธานี
บริการท่องเที่ยว สปป.ลาว เมืองแก่นท้าว ไซยะบูลี หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์
การเดินทาง : จากตัวเมืองเลย มาตามทางหลวงหมายเลข203 สู่อำเภอด่านซ้าย จากนั้นเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2013 ระยะทางประมาณ12กม. จะพบรีสอร์ททางขวามือ
ติดต่อ 081-715-6677 , 088-221-5345

ชมความงามของฤดูหนาว เมเปิ้ลเปลี่ยนสี ที่น้ำตกถ้ำใหญ่ ภูกระดึง

 ชมความงามของฤดูหนาว เมเปิ้ลเปลี่ยนสี ที่น้ำตกถ้ำใหญ่ ภูกระดึง

เมื่อลมหนาวมาเยือนยอดภูกระดึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดฮิตของจังหวัดเลย ก็ได้เวลาที่นักท่องเที่ยวเตรียมตัวเก็บกระเป๋าพร้อมขึ้นพิชิตยอดภูอีกครั้ง ความสวยงามของฤดูหนาวที่แตกต่างจากฤดูอื่น ๆ นั้น ก็คงหนีไม่พ้นการมาชมใบเมเปิ้ลสีแดง ที่เปลี่ยนสีและพลัดใบตกหล่นอยู่โดยรอบบริเวณ เป็นภาพธรรมชาติที่งดงามมาก ครั้งหนึ่งต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อุทยานแห่งชาติระดับที่ 2 ของประเทศไทย  สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,316 เมตร เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ ชอบการผจญภัย เดินป่า รับลมหนาว และชมทะเลหมอก โดยทางอุทยานฯ จะเริ่มเปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นมาสัมผัสธรรมชาติกันอย่างเต็มที่ ซึ่งจะมี 3 ช่วงฤดูให้เราได้เลือกว่าอยากจะไปสัมผัสอารมณ์ไหนบนยอดภู อยากไปสัมผัสความเขียวขจีของผืนป่าในช่วงปายฝนต้นหนาวเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน หากอยากมาสัมผัสความหนาวแบบสุด ๆ ก็ต้องช่วง ธันวาคม - มกราคม หรืออยากมาเดินป่าชมน้ำตกในช่วงฤดูร้อน มีนาคม - เมษายน ก็แล้วแต่ว่าเพื่อน ๆ อยากได้อารมณ์ไหน ลองมาพิชิตภูกระดึงสักครั้ง แต่เราเลือกพามาสัมผัสลมหนาวในช่วงที่ว่ากันว่าหนาวที่สุด ระหว่างกลางเดือนธันวาคม - กลางเดือนมกราคม อุณหภูมิต่ำสุดอาจถึง 0 องศาเลย นอกจากจะได้มาสัมผัสความหนาวแบบสะใจแล้ว ยังเป็นช่วงที่ต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสี เป็นสีแดงทั้งต้นท่ามกลางป่าเขียวสวยงามมากเกินบรรยาย ยิ่งถ้าถึงเวลาพลัดใบ ใบเมเปิ้ลจะหล่นเกลื่อนกลาดเต็มพื้น เหมือนเดินอยู่บนพรหมสีแดงที่สร้างสรรค์จากธรรมชาติ  ชมใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี ทำให้คนที่ได้ชมหลงรักภูกระดึงจับใจ ข หากใครอยากมาพิชิตภูกระดึงแล้วมาชมใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีแบบไม่เสียเที่ยว แนะนำให้โทรสอบถามเจ้าหน้าที่เรื่อย ๆ ครับ ว่ามันเปลี่ยนเยอะหรือยัง หรือใบหล่นเยอะมากแค่ไหนแล้ว ถ้ากำหนดวันไปก่อนแล้วไม่เจอ เพื่อน ๆ อาจจะมาเสียเที่ยวได้น่ะ เพราะไม่สามารถคาดคะเนสภาพอากาศได้ว่าในปีนั้น ๆ 

การเดินทาง  อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ที่ บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย
สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้หลายเส้นทาง
 - เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
เดินทางโดยเครื่องบิน โดยใช้เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ขอนแก่น กรุงเทพฯ-เลย กรุงเทพฯ-อุดรธานี ของสายการบินต่างๆ ได้ทุกวัน สอบถามข้อมูลเที่ยวบินและสายการบิน โทร. 0-2628-2000, 0-2515-9999, 0-2267-2999 และ 1318
เดินทางโดยรถไฟ ขึ้นรถไฟที่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงถึงสถานีรถไฟขอนแก่น ต่อรถโดยสารสายขอนแก่น-เลย ถึงอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง สอบถามข้อมูลรถไฟ โทร. 0-2225-1300 ต่อ 5201 ,0-2223-0341-3 หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติกระดึง โทร. 0-4287-1333, 0-4287-1458 
เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต 2) สายกรุงเทพ-เมืองเลย ลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึง แล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง สอบถามข้อมูลรถโดยสาร โทร.0-2936-2852-66 อัตราค่าโดยสาร
*ขอขอบคุณขอมูลการเดินทางจาก อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ HTTP://PARK.DNP.GO.TH/VISITOR/NATIONPARKSHOW.PHP?PTA_CODE=1002
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ : 042-871333, 042-871458-9 

หนาวนี้ที่ เขาค้อ ผักผ่อนสบายกับ THEBLUESKYRESORT

หนาวนี้ที่ เขาค้อ ผักผ่อนสบายกับ THEBLUESKYRESORT

สถาปัตยกรรมจากปลายศตวรรษที่ 19 ถูกทำให้มีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ณBLUE SKY เขาค้อ ด้วยการนำมาผสมผสานกับความโมเดิร์นอย่างลงตัว ซึ่งพื้นที่ใช้สอยและทุกรายละเอียดถูกออกแบบให้เป็น “บ้านแสนรัก” ที่คุณจะพบเห็นได้เฉพาะในชนบทของประเทศอังกฤษ ส่วนห้องพักมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ DELUXE และห้อง SUITE ที่มีจุดเด่นตรงที่มีห้องใต้หลังคาเอาไว้สำหรับคนที่อยากจะนอนชมพระจันทร์ให้ใกล้ขึ้นอีกนิด และห้องทั้งหมดตกแต่งในสไตล์วินเทจ ที่มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ DIVA BLOSSOM ห้องที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน ที่ความโรแมนติกพร้อมจะผลิบานในทุกนาที และ COUNTRY LOVER ห้องที่พร้อมจะเติมความอบอุ่นในแบบชนบทของอังกฤษให้กับทุก ๆ คน

ราคา : ดูรายละเอียดราคาห้องพักที่ THEBLUESKYRESORT.COM
ที่อยู่ : 56 หมู่ 5  ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
โทรศัพท์ : 08 1355 0500
เว็บไซต์ : THEBLUESKYRESORT.COM

ม่อนทานตะวัน ดอกคำใต้ จ.พะเยา

ม่อนทานตะวัน ดอกคำใต้ จ.พะเยา

ม่อนทานตะวันกว่า 1,000 ไร่ ในตำบลป่าซาง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมภายใต้งาน “ม่อนทานตะวันเพื่อการท่องเที่ยว สู่ประตูอาเซียน”
โดยม่อนทานตะวันดอกคำใต้ ที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยาได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยมีนายสรธร สันทัด รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งนอกจากจะได้ชมทุ่งทานตะวันแล้ว ยังมีกิจกรรมอีกหลากหลายที่จะให้บริการนักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมกัน ทั้งเมืองคาวบอย กิจกรรมคาวบอย การขี่ม้า รถเอทีวี การปั่นจักรยาน การนั่งรถไถพ่วง ชมทุ่งทานตะวัน ชมสวนสตรอว์เบอร์รี    

ชมและสัมผัสบรรยากาศการจัดงานแบบเมืองคาวบอย และเมืองอินเดียนแดง ชมฝูงนกยูงป่าที่จะลงมาให้ยลโฉมในทุกเย็นบริเวณม่อนทานตะวัน ซึ่งขณะนี้ทานตะวันเริ่มบานเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว โดยม่อนทานตะวันเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มเข้าชมได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ตลอดจนเป็นการต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว และเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

ทั้งนี้เปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2558 เป็นต้นไป เปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00 น.-18.00 น.

สุดสนุกกับสวนน้ำ และสะพานลอยฟ้า ณ “สวนสัตว์ขอนแก่น”

สุดสนุกกับสวนน้ำ และสะพานลอยฟ้า ณ “สวนสัตว์ขอนแก่น”

สถานที่ที่ได้รับยกย่องจากสภาการศึกษา กระทรวงการศึกษาธิการ ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งก็คือ สวนสัตว์ขอนแก่น หรือ สวนสัตว์เขาสวนกวาง สวนสัตว์ขอนแก่น หรือสวนสัตว์เขาสวนกวาง ตั้งอยู่อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งถือว่าเป็นกึ่งกลางของภูมิภาค เนื่องจากสถานที่ตั้งของสวนสัตว์ขอนแก่นนั้นตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดกาฬสินธุ์

“สวนสัตว์ขอนแก่น” หรือรู้จักกันในนาม “สวนสัตว์เขาสวนกวาง” สังกัดองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ถือกำเนิดขึ้นในแดนดินถิ่นอีสาน ซึ่งองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับนโยบายจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สำรวจพื้นที่ก่อสร้างสวนสัตว์ขอนแก่น ขึ้นบริเวณภูเขาสวนกวาง ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาสวนกวาง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น คาบเกี่ยวกับกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี รวมพื้นที่ ๓,๓๓๘  ไร่ ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ๔ หน่วยงานขึ้นวันที่  ๒๗ เมษายน ๒๕๕๒ ซึ่งประกอบไปด้วย กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จังหวัดขอนแก่น และองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานทั้งสี่หน่วยงาน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่าอย่างยั่งยืนและแนวความคิดคนกับป่า การวิจัย เป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่าที่หายาก และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งเที่ยวชมสัตว์ป่าของจังหวัดขอนแก่น  จังหวัดอุดรธานี  และจังหวัดใกล้เคียง

การเดินทาง เข้าชมสวนสัตว์ก็แสนสะดวกสบาย ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสาร โดยใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ ขอนแก่น-อุดรธานี หรือจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟ มาลงที่สถานีเขาสวนกวาง และนั่งรถสกายแลปส่งถึงสวนสัตว์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าชมสวนสัตว์ขอนแก่น ทางสวนสัตว์เปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 16.00 น. สอบถามรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์  043-040145, 086-4594192 แฟกซ์ 043-040145 หรือ WWW.KHONKAENZOO.COM หรือทาง FACEBOOK FANPAGE : สวนสัตว์ขอนแก่น KHONKAEN ZOO ติดต่อจองที่พัก หรือกิจกรรมเข้าค่ายพักแรม ที่ งานส่งเสริมการศึกษา ฝ่ายการศึกษาสวนสัตว์ขอนแก่น โทร.086-455-6340 E-MAIL : EDUZONE844@GMAIL.COM

เกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี น้ำใสทะเลสวย

เกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี น้ำใสทะเลสวย

เกาะนางยวนเป็นเกาะหนึ่งในจำนวน 100 เกาะของจังหวัดสุราษฏร์ธานี อยู่ปลายของเกาะเต่า มองเห็นเป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะซึ่งเชื่อมต่อด้วยหาดทรายสีขาว 3 สาย เสน่ห์ของเกาะนางยวนนั้น มาจากน้ำทะเลสีมรกตที่ใสจนมองเห็นตัวปลาตัวเล็กตัวน้อย เปลือกหอย และปะการัง ซึ่งอยู่ใต้น้ำอย่างชัดเจน ส่วนกิจกรรมสุดฮิตของที่นี่คือ การดำน้ำดูปะการังและปลาสวยงาม เล่นน้ำริมหาดแค่นี้ก็เพลิดเพลินไม่รู้เบื่อแล้ว

การเดินทาง : นิยมเดินทางจากเกาะเต่า ฉะนั้นต้องขับรถไปสุราษฎร์หรือชุมพรก็ได้ มุ่งหน้าไปท่าเรือ แล้วขึ้นเรือไปเกาะเต่า ส่วนรถทัวร์มีหลายบริษัทขึ้นได้ที่หมอชิตและสายใต้ใหม่ หรือจะนั่งเครื่องบินไปที่สุราษฎร์ แล้วขึ้นเรือไปพักสักคืนที่เกาะเต่า

"เกาะตาชัย" เปิดแน่ 15 ตุลานี้

"เกาะตาชัย" เปิดแน่ 15 ตุลานี้

ในหน้าร้อนนี้ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้ไปเล่นน้ำ เห็นทะเลสวยๆ น้ำใสๆ ของทะเลฝั่งอันดามัน ปกติแล้วผมจะไปเที่ยวทะเลภาคใต้ปีละ 2-3 ครั้ง ในทริปที่แล้วไปที่เกาะหลีเป๊ะ ทริปนี้เลยมาที่เกาะตาชัยกันบ้าง เป็นเกาะที่ฮิตมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ ถือว่าเป็นสุดยอดทะเลไทยแห่งหนึ่ง สวยงามไม่เป็นรองใคร
เกาะตาชัย
เกาะตาชัย ชื่อนี้คงคุ้นหูใครหลายคน เป็นเกาะที่ฮิตมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นเกาะเปิดใหม่ ยังไม่เคยมีคนไป แต่จริงๆ แล้วเกาะตาชัยเป็นเกาะที่ถูกค้นพบมานานแล้ว แต่เพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นเกาะ เกาะตาชัยเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ที่ตั้งของเกาะจะอยู่เหนือหมู่เกาะสิมิลันขึ้นไปด้านบน ถือว่าอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่อยู่ไกลจากฝั่งมากที่สุด
ใน 1 ปีเกาะตาชัยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียง 6 เดือน ช่วงที่เปิดให้เที่ยวเกาะจะเป็นช่วง 15 ตุลาคม – 31 พฤษภาคม เท่านั้น และ 6 เดือนที่เหลือจะปิดเกาะเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติเกาะตาชัยเป็นเกาะเล็กๆ มีพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตรกว่าๆ มีหาดทรายเพียงหาดเดียว เป็นหาดยาว 800 เมตร หาดทรายที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นหาดทรายที่มีทรายขาวละเอียดคล้ายกับผงคอฟฟี่เมต และน้ำทะเลที่ใสอมฟ้าคล้ายสีของแอลกอฮอล มีแนวปะการังขนานไปกับตัวเกาะ ส่วนที่มาของชื่อ “เกาะตาชัย” มาจากชื่อของ “ตาชัย” ผู้ค้นพบเกาะแห่งนี้

การเดินทางไปเกาะตาชัย
การเดินทางไปเกาะตาชัยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการซื้อ ONE DAY TRIP จากบริษัททัวร์ บริษัททัวร์จะมีรถตู้มารับจากที่พักย่านเขาหลัก ภูเก็ต ในตอนเช้า ไปส่งยังท่าเรือบ้านน้ำเค็ม – ท่าเรือทับละมุ จ.พังงา จากท่าเรือไปเกาะตาชัยด้วยเรือ SPEED BOAT ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมง กับระยะทาง 85 กิโลเมตร และตอนเย็นก็มีรถตู้มาส่งกลับที่พัก ปัจจุบันมีผู้ให้บริการทัวร์เกาะตาชัยอยู่ 3-5 เจ้า การบริการ และคุณภาพค่อนข้างใกล้เคียงกัน เป็นทัวร์ระดับ PREMIUM ทั้งหมด

ภูผาและลำธาร รีสอร์ท!! รีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาและลำธาร

ภูผาและลำธาร รีสอร์ท!!  รีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาและลำธาร

ภูผาและลำธาร รีสอร์ท ซึ่งเป็น รีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาและลำธาร และความสวยงามของสายหมอกแห่งเขาสก ทำให้ภูผาและลำธาร เป็นรีสอร์ทในฝันของใครหลายคนซึ่ง อยู่ที่ เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี
ซึ่งทีมงาน ได้รับเกียรติ จากผู้บริหาร คุณปัญญา แสงสุริยันต์ ให้เข้าเยี่ยมชม ภูผาและลำธาร รีสอร์ท ทันที ที่ถึง รีสอร์ทนั้น โอ้วแม่เจ้านี้ ภาคใต้หรอนี่ อากาศแสนเย็นตลอดปี มีหมอกปกคลุมขุนเขายามเช้า ซึ่งเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนจริงๆ พร้อมมีลำธาร พร้อมวิวที่สวยงามมาก บรรจงเนรมิตช่วงเวลาอันน่าประทับใจ ในส่วนของการบริการแล้ว ที่นี่บริการอย่างอบอุ่น คุณต้องมาลองสัมผัสด้วยตัวคุณเอง

ในส่วนของห้องพัก ภายในห้องจะมีเครื่องปรับอากาศและระเบียงส่วนตัวที่มองเห็น ทัศนียภาพอันงดงาม ห้องน้ำทุกห้องติดตั้งฝักบัว พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นและ ตู้เย็น นอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์ระบบผ่านดาวเทียมเพื่อความบันเทิงในห้องพักสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านนอกก็ยังมี ทั้ง สระว่ายน้ำ ที่โอบล้อมไปด้วยขุมเขา ไวบริการท่าน พร้อมห้องอาหารที่ สามารถมองเห็นธารน้ำไหล มองแล้วสบาย พร้อมอากาศแสนเย็น หากท่านเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรม ทาง ภูผาและลำธาร รีสอร์ท ยังมี สปา นวดแผนไทยและห้องอบไอน้ำ ท่ามกลางธรรมชาติ ไว้บริการท่านอีกด้วย

วันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่รู้จะไปไหน หรือ นึก ไม่ออกลองมาพักที่ ภูผาและลำธาร รีสอร์ท รับรองท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แต่ ขอเตือนต้องโทรจองก่อนนะจ๊ะ
สถานที่ตั้ง : กม. 97 ถนนสุราษฎร์-ตะกั่วป่า หมายเลข 401 ต.คลองศก อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานีโทร. 08 7271 8787
สำรองที่พักที่ 087-2718787
ข้อมูลเพิ่มเติมของรีสอร์ทนี้ที่ HTTP://WWW.THECLIFFANDRIVER.COM

สระน้ำผุด!!! ที่ปากช่อง

สระน้ำผุด!!! ที่ปากช่อง

สระน้ำผุด เป็นที่เที่ยวเขาใหญ่ ที่แห่งนี้มีตาน้ำไหลมาตลอดปี เป็นตราน้ำที่มีน้ำผุดออกมาโดยธรรมชาติ ลักษณะของน้ำจะใสมาก และไหลอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นช่วงหน้าฝนก็จะมีน้ำเยอะกว่าปกติ น้ำผุดนี้จะมี บ่อหรือชั้น ลดหลั่นกัน ไปเป็นบ่อๆ มีประมาณ 4 บ่อ สามารถลงเล่นน้ำได้  ส่วนบ่อที่เป็นตาน้ำจะไม่มีใครไปลงเล่นน้ำ เพราะถือว่าเป็นตาน้ำน้ำผุดบ่อน้ำ จะสามารถลงเล่นน้ำได้ มีสะพานข้ามไปฝั่งตรงข้าม โดยมีถนนทางเดินเล็กๆ เดินเข้าไป
เขาใหญ่-ปากช่อง ที่เที่ยวเยอะจริงๆ เที่ยววันเดียวคงไม่พอ แต่หากใครมีเวลาจำกัดลองเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและวางแผนการเดินทาง อาจช่วยให้เที่ยวสนุกขึ้นและเก็บได้หลายที่ค่ะ

ที่อยู่ : ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
การเดินทาง สระน้ำผุด นครราชสีมา : สระน้ำผุดจะตั้งอยู่เส้นถนนธนรัชต์ทางไปเขาใหญ่จะอยู่เลยปาลิโอ่หากมาทางเขาใหญ่ประมาณ 15 กิโลเมตรให้เลี้ยวซ้ายไปทาง สถานีตำรวจตำบลหมูสี ผ่านไปทางหมู่บ้านท่าช้างจะเจอแยกเลี้ยวขวาแล้วตรงไปจะพบกับ บ่อน้ำผุดดธรรมชาติ 

ปันนาบุรี RESORT(LITTLE PAI) !! ช่วยให้ชีวิตเดินช้าลง

ปันนาบุรี RESORT(LITTLE PAI) !! ช่วยให้ชีวิตเดินช้าลง

ปันนาบุรี RESORT(LITTLE PAI) ที่สำหรับคนที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ในเมืองหลบมาพักผ่อนสมอง รับอากาศดีๆเข้าปอดสักหน่อย ใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่มี STYLE ท่ามกลางธรรมชาติ มีน้ำลำธารใสๆที่ไหลมาจาก เขาใหญ่ให้เล่น หรือจะขับรถเล่นชมเขาใหญ่ก็ใกล้เพียงไม่กี่นาที เมื่อยก็กลับมานวดแผนไทยสักหน่อย ตกดึกก็มาก่อกองไฟนั่งสนทนา กับเพื่อนบ้านของคุณ แล้วคุณจะพบว่าแขกที่นี่คุยกันถูกคอแทบทุกคน ทำให้ได้เพื่อนใหม่ที่จริงใจเพิ่มขึ้น ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงครึ่ง คุณก็สามารถมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้ง่ายๆในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่ต้องรอให้ถึงวันหยุดสิ้นปี แค่ 1 วัน 1 คืน ก็สามารถจะชาร์ตแบตให้คุณมีพลังกลับไปต่อสู้ในเมืองได้

ที่ตั้ง :  95 หมู่ 5  ตำบลขนงพระกลาง  อำ   เภอปาก  จั งหวัดนครราชสีมา 30130 
การเดินทาง : ช่องจากกรุงเทพฯ วิ่งเส้นปากช่อง ผ่านโลตัสเลี้ยวขวา ไปทางเขาใหญ่ (ถนนธนะรัชต์) ประมาณ 3 กม. จะเจอ ป้ายแยกขนงพระ เลี้ยวซ้ายเข้าไปผ่านวัดขนงพระใต้ จะเห็นรีสอร์ทอยู่ทางซ้ายมือ 
โทร : 081-779-5876
WWW.PANNABUREE.COM
ราคา : < 1,000 / 1,000 - 3,000

ชมดอกไม้ปลายฝนนี้ที่ “โคร่งขุนแม่ยะ” กับดอกดอกซากุระเมืองไทย “ดอกนางพญาเสือ”

ชมดอกไม้ปลายฝนนี้ที่ “โคร่งขุนแม่ยะ” กับดอกซากุระเมืองไทย “ดอกนางพญาเสือ”

ดอกพญาเสือโคร่ง ณ ขุนแม่ยะ ตั้งอยู่ในความดูแลของ หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะในสังกัดส่วนจัดการต้นน้ำ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน คือตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลแม่ฮี้ อำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นดอยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,020 เมตร อาณาเขตพื้นที่ราว 87,500 ไร่ โดยพื้นที่ ทั้งหมดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา–แม่แสะ ในช่วงแรกขุนแม่ยะ เป็นผืนป่าที่เสื่อมโทรม ถูกทำลายจนราบโล่ง แต่ต่อมาทางหน่วยได้เริ่มปลูกต้นพญาเสือโคร่งเพื่อเป็น การฟื้นฟูป่า ในช่วงแรกเนื่องจากต้นพญาเสือโคร่ง เป็นต้นไม้ที่ เจริญเติบโตเร็วและยังมีดอกที่สวยงามอีกด้วยจนทุกวันนี้ต้น พญาเสือโคร่งเป็นที่รู้จักกันนามของ ดอกซากุระเมืองไทย ที่สวยงามไม่แพ้ที่ใด

การเดินทางมาชมดอกพญาเสือโคร่งที่ ขุนแม่ยะ ถ้าตั้งต้นจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ ให้ใช้เส้นทางถนน โชตนา (เชียงใหม่ – ฝาง) มาถึงบ้านแม่มาลัย ประมาณหลัก กม.34 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1095 ทางไปปาย ไปห้วยน้ำดัง ขึ้นเขาคดเคี้ยวชมวิวไปจนถึงทางเข้า ห้วยน้ำดังด้านขวามือ ให้ชะลอรถขับช้าๆต่อไปเตรียมตัวได้เลย อีกกิโลเมตรกว่าๆถึงด่านตรวจแม่ยะ หลัก กม. 67 + 500 เป็นอันว่าถึงต้นทางขึ้นดอยแล้ว เลี้ยวซ้ายเข้าถนน วิบากดินลูกรังขับไต่ความสูงชันขึ้นดอยประมาณ 8 กม. ก็จะถึงที่ทำการ หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ถนนทางเข้าก็ค่อนข้างลำบากเนื่องจากที่นี่เป็น เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ไม่มีนโยบายที่จะทำถนนถึงแม้จะเป็น สถานที่ ท่องเที่ยวก็ตามระหว่างทาง ที่นั่งรถมาผ่านทางลูกรังที่บางช่วงยังยากลำบาก ระหว่างทางเต็มไปด้วยผืนป่ารกทึบ อุดมสมบูรณ์และแน่นอนบนเส้นทางจะพบต้นนางพญาเสือโคร่งกระจายอยู่กับต้นสนสามใบและเมื่อถึง หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะสิ่งแรกที่เราเห็นตั้งแต่ปากทางเข้าคือ ความสวยงามของเจ้าดอกพญาเสือโคร่งที่เบ่ง บานเต็มยอดดอยยิ่งมาในวันที่ ท้องฟ้าสดใสสีฟ้าเข้มในช่วงฤดูหนาวด้วยแล้วเหมือนกับ สวรรค์บนดินของ นักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้

การเดินทางไปขุนแม่ยะ
1. รถยนต์ส่วนตัว
ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1095 (สายแม่มาลัย – ปาย)จะผ่านทางเข้า อช.ห้วยน้ำดัง เลยไปประมาณ 1 กม. จะถึง ด่านตรวจแม่ยะ, ด่านกักกันสัตว์แม่ยะปากทางเข้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยะ จะอยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้าย เข้าไปอีก 8 กม เป็นทางลูกรังบริเวณหน่วยจัดการขุนแม่ยะ  เส้นทางเข้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยะ เป็นดินลูกรัง ค่อนข้างลำบาก รถที่สามารถเข้าไปได้ต้องเป็นรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น และ ต้องขับอย่างระมัดระวังด้วย ความชำนาญนักท่องเที่ยวจะนิยมจอดรถไว้ตรงปากทางเข้าแล้วใช้บริการรถของชาวบ้านที่คุ้นเคยกับพื้นที่มากกว่า ซึ่งมีให้บริการ อยู่ตรงปากทางเข้าตลอดทั้งวัน ราคาเหมาไปกลับไม่ค้างคืน 1,200 บาทแบบ 2 วัน 1 คืน 1,500 บาท ติดต่อรถเช่าคุณ อำนวย 08 4365 8698
2. รถโดยสารสารธารณะ 
จากเชียงใหม่ รถตู้  สายเชียงใหม่-ปาย รถตู้ปรับอากาศจะออกทุกชั่วโมง เที่ยวแรก 06.30 น. เที่ยวสุดท้าย 16.30 น. ราคา 150 บาท หรือนั่งรถโดยสาร เชียงใหม่-ปาย เวลา 10.30 น., 14.00 ,15.00 ราคา 72 บาท แล้วไปลงระหว่าง ทางที่ด่านตรวจแม่ยะ จากนั้นเหมารถเช่าของชาวบ้านขึ้นไปหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ

"BRASSIERE BEACH" พักริมชายหาดปราณ-สามร้อยยอด

"BRASSIERE BEACH" พักริมชายหาดปราณ-สามร้อยยอด  BRASSIERE BEACH เป็นที่พักริมชายหาดปราณ-สามร้อยยอด ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 230 กม. มีสไตล์การออกแบบตกแต่งเฉพาะตัว  แรงบันดาลใจที่จุดประกายให้เกิดบราเซียร์ โคซี่ โฮเต็ล เริ่มต้นมาจากความประทับใจส่วนตัวของผู้ก่อตั้ง และสานต่อความฝันผนวกเข้ากับจินตนาการที่ตอบรับกับธรรมชาติ  ให้กลายเป็นโรงแรมขนาดกะทัดรัด ที่แม้จะมีจำานวนห้องพักเพียง 12 ห้อง ทว่าทุกๆ ผิวสัมผัส ทุกๆ ตารางนิ้ว  มองเห็นรายละเอียดที่บ่งบอกถึงความตั้งใจ และใส่ใจที่จะสร้างสถานที่ให้เป็นมากกว่าที่พัก สัมผัสกับความเงียบ  ส่วนตัว และมนต์เสน่ห์ของทะเล ได้ด้วยตัวคุณเองที่  BRASSIERE BEACH แล้ววันพักผ่อนของคุณจะเป็นวันพักผ่อนที่เงียบสงบเป็นส่วนตัวที่สุด  ให้คุณได้ใช้เวลาในวันพักผ่อนกับครอบครัวหรือคนที่รักอย่างเต็มที่ ที่ตั้ง : จากอำเภอปราณบุรี  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทางไปทางหาดนมสาว ราคาเริ่มต้น : 3,800-11,500 บาท TEL: : 081-7344343, 032 630555 FAX: : 032 630554 E-MAIL: : BRASSIEREBEACH@HOTMAIL.COM WEBSITE: : WWW.BRASSIEREBEACH.COM

ลำน้ำไหลเย็นติดบ่อน้ำพุร้อน ที่เดี่ยวในประเทศไทย ที่กาญจนบุรี

ลำน้ำไหลเย็นติดบ่อน้ำพุร้อน ที่เดี่ยวในประเทศไทย  ที่กาญจนบุรี

น้ำพุร้อนหินดาด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นที่รู้จักกันดีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียนิยมแวะมาแช่น้ำที่นี่กันเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ไม่ควรพลาด เพราะบ่อน้ำร้อนทางธรรมชาติ มีแร่ธาตุ และช่วยบำบัดรักษาโรคต่างๆ ได้
น้ำพุร้อนหินดาด หรือน้ำพุร้อนกุยมั่ง ตั้งอยู่ที่บ้านกุยมั่ง ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ ถูกค้นพบโดยทหารญี่ปุ่นที่คุมเชลยศึกมาสร้างรถไฟสายมรณะ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ ที่มีตาน้ำอยู่ใต้ดิน มีน้ำไหลตลอดปี สร้างเป็นบ่อซีเมนต์ไว้เป็นบ่อแช่ มีด้วยกัน 3 บ่อ ที่มีความร้อนต่างระดับกันไป คือบ่อน้ำร้อนมาก ร้อนปานกลาง มีบ่อเล็กสำหรับเด็กที่น้ำไม่ร้อนมาก และยังมีบ่อสำหรับพระสงฆ์แยกอยู่ต่างหาก อุณหภูมิน้ำร้อนที่ผิวดินอยู่ในช่วง 40-100 องศาเซลเซียส อุณหภูมิน้ำบ่อแช่ประมาณ 45-55 องศาเซลเซียส เชื่อกันว่าการอาบน้ำแร่ แช่น้ำพุร้อน มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีสรรพคุณในการรักษา และบรรเทาอาการของโรคต่างๆ ได้ เช่น
- บรรเทาอาการปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ เหน็บชา ไขข้อ
- ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้สะดวก ขยายหลอดเลือดทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายดีขึ้น
- ช่วยในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนและกลูโคสระหว่างเส้นเลือดฝอยและเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย
- ช่วยขยายรูขุมขน ช่วยให้ขับสิ่งอุดตันใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณดูสดใส
- ช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกาย และจิตใจ ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย เป็นการลดความเครียดได้อย่างหนึ่ง

บ่อน้ำพุร้อนนี้อยู่ในความดูแลของ อบต. หินดาด ในเรื่องการรักษาความสะอาด และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาแช่พุร้อนเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่มีการรักษาความสะอาดล้างบ่อ และดูแลเปลี่ยนน้ำ ถ่ายน้ำใหม่ทุกวันจันทร์ และวันศุกร์ ในช่วงบ่าย 3 โมง
บริเวณริมบ่อน้ำพุร้อนรายล้อมด้วยธรรมชาติ มีต้นไม้ร่มรื่น ติดกับบ่อน้ำร้อนมีลำธารน้ำเย็นอยู่ติดกัน คั้นด้วยทางเดินตรงกลาง ลำธารนี้ไหลในแนวขนานกับบ่อน้ำร้อน เป็นน้ำที่ไหลลงมาจากน้ำตกผาตาด หากใครที่ไม่ต้องการแช่น้ำร้อน ก็สามารถเล่นน้ำในลำธารได้ น้ำไม่ลึก เป็นน้ำไหล ไม่ถึงกับเชี่ยว ผู้ที่ไม่เล่นน้ำ ต้องการพักผ่อนคลายเส้น ก็มีจุดบริการนวดแผนโบราณ ทั้งนวดตัว และนวดฝ่าเท้า

การเดินทางไปน้ำพุร้อนหินดาด
กรุงเทพฯ - น้ำพุร้อนหินดาด 238 กิโลเมตร
ตัวเมืองกาญจนบุรี - น้ำพุร้อนหินดาด 110 กิโลเมตร
น้ำพุร้อนหินดาด - อำเภอทองผาภูมิ 21 กิโลเมตร
รถยนต์
- เริ่มจากถนนสายหลักตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปอำเภอไทรโยค - ทองผาภูมิ(หมายเลข 323) ผ่านน้ำตกไทรโยคน้อย พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด น้ำตกไทรโยคใหญ่ จนถึงช่วงป้ายหลักกิโลเมตรที่ 180 (ป้ายกิโลเมตรใหม่ เส้น 323) เลี้ยวขวาไปน้ำพุร้อนหินดาด (มีป้ายน้ำพุร้อนอยู่ด้านหน้า) เลี้ยวเข้าไปประมาณ 300 เมตร น้ำพุร้อนอยู่ทางซ้ายมือ มีลานจอดรถด้านใน
รถโดยสารระหว่างอำเภอ
- ขึ้นรถทัวร์กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี จากสถานีขนส่งสายใต้ สถานีขนส่งหมอชิต หรือรถตู้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปลงที่ตัวเมืองกาญจน์  นั่งรถจากสถานีขนส่งในตัวเมืองกาญจน์ ที่ไปอำเภอทองผาภูมิ หรืออำเภอสังขละบุรี บอกคนขับลงน้ำพุร้อนหินดาด เดินจากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 300 เมตร ขากลับดักรอรถที่มาจากสังขละบุรี หรือทองผาภูมิ (ควรสอบถามเที่ยวการเดินรถให้แน่นอนก่อนสำหรับขากลับด้วย) 

หนาวนี้บินขึ้นเหนือรับลมหนาว กับที่พักแสนโรแมนติก ที่ "เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท"

หนาวนี้บินขึ้นเหนือรับลมหนาว  กับที่พักแสนโรแมนติก ที่ "เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท"

ที่พักเก๋แอบอิงธรรมชาติ “เก๊าไม้ล้านนา” ที่นี่เก๋ตรงที่ เอาโรงบ่มยาสูบในอดีตมาปรับปรุงเป็นที่พัก แล้วปลูกต้นตีนจกขึ้นมาคลุมตัวบ้านพัก ทำให้บ้านพักที่นี่มีสีเขียวๆคลุมอยู่จนทั่ว นอกจากนี้บริเวณโดยรอบก็ปลูกต้นไม้จนรกครึ้ม ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปท่ามกลางป่าที่มีแมกไม้เขียวขจี ให้ความรู้สึกสดใส ที่สำคัญ สีเขียวๆของบ้านพักที่สวยเก๋แปลกตา เมื่อถ่ายรูปออกมาสวยจนแทบไม่น่าเชื่อ คนรักการถ่ายรูปบอกเลยว่าไปแล้ว ไม่มีทางเสียใจแน่นอน

เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท สไตล์บูติกอีโค่ลอดจ์ เพียง 20 กม จากสนามบิน บนเส้นทางเชียงใหม่-ฮอด อำเภอสันป่าตอง หมู่บ้านทุ่งเสี้ยว เส้นทางเดียวกันที่มุ่งสู่ดอยอินทนนทน์ ห้องพักทุกห้องดัดแปลงจากโรงบ่มใบยาสูบตกแต่งอย่างมีสไตล์โดยการดัดแปลงจากศิลปะพื้นถิ่น ผสมผสานกับของตกแต่ง และเครื่องเรือนโบราณแบบโคโลเนียล เก๊าไม้ล้านนา มาจาก คำเมือง ภาษาถิ่นดั้งเดิมของล้านนา เก๊าไม้ แปลว่า ไม้ใหญ่ หรือ ร่มเงาใต้ต้นไม้ใหญ่ ส่วน ล้านนา คือชื่อเรียกเฉพาะของอาณาจักรเก่าแก่ รวมความถึงแบบแผนทางขนบและวัฒนธรรมที่มีอายุยาวนานมากว่า 700 ปี ทางภาคเหนือโดยจังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน หรือว่าในอดีตถูกขนานนามว่า เมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ 

เก๊าไม้ล้านนา มีพื้นทีกว่า 20 เอเคอร์ หรือ 48 ไร่ อยู่ท่ามกลางสวนป่าธรรมชาติ ร่มรื่นแวดล้อมไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด ไม้ป่า พันธ์ไม้สะสมหายากนานาชนิด ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ในเส้นทางการเดินทางที่สะดวกง่ายดาย บริการพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกที่ครบครัน สระว่ายน้ำ สปา โยคะสตูดิโอ ห้องพัก ห้องจัดเลี้ยงสัมมนา รีสอร์ทกลางสวน สงบ สบายเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง 

พิกัด: บ้านกลาง ถนนเชียงใหม่ – ฮอด อ.สันป่าตอง
โทร: 053-834480
FAX :053-834480
WEBSITE :HTTP://WWW.KAOMAILANNA.COM
E-MAIL : SERVICE@KAOMAILANNA.COM